03.04.66
 
สมาคมประชาสัมพันธ์ไทย ร่วมโครงการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ในการสร้างความตระหนักรู้เรื่อง พ.ร.บ. ความเท่าเทียมระหว่างเพศ
 
       ดร.พจน์ ใจชาญสุขกิจ นายกสมาคมประชาสัมพันธ์ไทย ได้เข้าร่วมกิจกรรม WORK SHOP การจัดทำโครงการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ กิจกรรมการประชุมเชิงปฏิบัติการเชิงปฏิบัติการสร้างความตระหนักรู้เรื่องพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ(พ.ศ.2558) ของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว โดยมี ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียม ได้แก่ ศ.ดร.อัญชลี มีมุข ดร.นรินทร์ กรินชัย, ดร.มณทิพย์ ศรีรัตนา และคุณสุพัตรา ภู่ธนานุสรณ์ ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะในการจัดทำโครงการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ด้วย



       สมาคมประชาสัมพันธ์ไทย ได้ร่วมกิจกรรมกับผู้บริหาร และผู้แทน จากสมาคม มูลนิธิ ชมรม องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน หรือองค์กรเอกชน ผู้แทนสื่อสารมวลชน จำนวน 23 องค์กร เช่น สภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม สมาคมส่งเสริมพัฒนาความรู้เพื่อชุมชน มูลนิธิการศึกษาเพื่อชีวิตและสังคม มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย สมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ เครือข่ายสมาคมสมาพันธ์สตรีมุสลิมประเทศไทย ฯลฯ จำนวนกว่า 50 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรม WORK SHOP การจัดทำโครงการฯ ในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ (พ.ศ.2558)



       สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างเพศ คือ การสร้างการรับรู้ ให้ประชาชนได้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. ความเท่าเทียมระหว่างเพศ (พ.ศ.2558) ปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เข้าใจและตระหนักรู้เรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศอย่างแท้จริง บนฐานความเข้าใจว่า “ควรเคารพในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่มีความแตกต่างหลากหลายในเรื่องเพศ ไม่เลือกปฏิบัติด้วยปัจจัยเพศภาวะ” กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว จึงได้ส่งเสริมให้ สมาคม มูลนิธิ ชมรม องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน หรือองค์กรเอกชนทั้งหลาย ร่วมเป็นกลไกสำคัญในการดำเนินงานด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศในสังคม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรม การจัดทำโครงการต่างๆ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการประสานความร่วมมือเพื่อผลักดันการดำเนินงานด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ จนนำไปสู่การสร้างกลไกในการสร้างสังคมเสมอภาค ต่อไป